ป่าไม้ถูกทำลาย พื้นที่สีเขียวลดลงส่งผลทำให้สัตว์ป่าใกล้ตาย

ป่าไม้ถูกทำลาย พื้นที่สีเขียวลดลงส่งผลทำให้สัตว์ป่าใกล้ตาย

พื้นที่สีเขียวลดลง

เป็นเรื่องที่หน้าเสียใจ ที่เราได้รู้ข่าว ได้ยินข่าวเรื่อง ป่าไม้ถูกทำลาย การตัดไม้แพ้วถางเพื่อทำการเกษตร หรือการทำลายสิ่งแวดล้อมรอบๆ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยของเรา หรือจะเป็นที่ต่างประเทศนั้น ได้เริ่มมีข่าวเกี่ยวกับสัตว์ป่าที่ใกล้ตาย และใกล้จะสูญพันธ์ เพราะด้วยโลกของเรา ที่เปลี่ยนไปทำให้ส่งผลกระทบ ตามมาหลายๆอย่าง ไม่ใช่แค่กับมนุษย์ ที่เริ่มรู้สึกร้อน และเป็นโรคภัยต่างๆเพิ่มขึ้น และนับประสาอะไร กับสัตว์ที่มีชีวิตเหมือนมนุษย์ แต่สัตว์ป่าพวกนี้ มันไม่ใช่มนุษย์ มันไม่รู้จักวิธีการเอาตัวรอดอย่างมนุษย์เรา ถึงจะเอาตัวร้อนตามสัญชาตญาณแล้วนั้น ก็อาจจะไม่พ้นความตายเหมือนเดิม เพราะพื้นที่สีเขียวนั้น มีประโยชน์กว่าที่ทุกคนคิด จึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่เราจะต้องช่วยกัน แก้ไขปัญหาโลกร้อน โดยการช่วยกันปลูกต้นไม้ หรือช่วยกันอนุรักษ์ต้นไม้ก็ได้

สัตว์ป่าที่กินพืช เป็นอีกหนึ่งอย่าง ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะสัตว์ป่าชนิดนี้ นั้นจะต้องกินพืชเป็นอาหาร จะอยู่ในป่า ซึ่งป่านั้น ก็มีแต่พืชพันธุ์ที่พวกมันชอบทั้งนั้น แต่ตอนนี้พื้นที่สีเขียว ได้ลดลงไปมาก ซึ่งสัตว์ป่าเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ ที่ช่วยทำให้โลกของเรานั้น มีความสมดุล แต่ในปัจจุบันนั้น นับวันสัตว์ค่อยๆ ถูกทำลายไปจนจะสูญพันธุ์เต็มที่ แต่ยังมีบางหน่วยงาน ที่ออกมาช่วยกันอนุรักษ์สัตว์ป่า ไม่ให้สูญพันธุ์แล้ว แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากมาก อยู่ดีหากเราจะรักษา ไม่ให้สัตว์ป่านั้นสูญพันธุ์จริงๆ เป็นเพราะปัจจัยหลายๆอย่าง ที่ทำให้โลกของเราเปลี่ยนไป และด้วยสภาพอากาสที่ย้ำแย่ลงทุกวัน ต่อจากนี้ คงจะเป็นการเอาตัวรอดของสัตว์ ก็คือจะมีการวิวัฒนาการ พัฒนาไปเรื่อย ๆ เพราะพวกมันก็กลัวตายเหมือนกัน พวกมันไม่สามารถฆ่าตัวตาย หรือตรอมใจตาย เหมือนมนุษย์เราไม่ได้หรอกนะ นอกเสียใจว่า พวกมันจะเปลี่ยนจากกินพืช มาเป็นกินเนื้อกันเองก็เท่านั้น แต่การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า โลกได้มาถึงจุดที่หน้ากลัวแล้ว เพราะพวกมันกิน แต่พืชผักมาตั้งแต่สมัยกี่พันปีมาแล้ว กลับต้องมาเปลี่ยน วิธีการกินใหม่โดยการกินเนื้อ คงจะเป็นเรื่องยากหน้าดู เพราะถ้าจะให้เปรียบเทียบ กับมนุษย์เราแล้วนั้น ก็เหมือนกับการที่มนุษย์จะต้องอดอาหาร ไม่ได้กินอาหาร สุดท้ายก็จะหิวจนตาย แต่ก่อนที่เราจะตาย เราก็คงต้องหาทางเอาตัวรอด ก่อนที่จะตายโดยการยื้อเวลาไว้ อย่างการกินฉี่ตัวเอง ซึ่งคงจะเป็นทางเลือกสุดท้าย ที่ทุกคนจะทำมัน และก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นจริงๆ เราคงไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นกับเรา และก็ไม่ควรเกิดขึ้นกับสัตว์ป่าด้วยเช่นกัน

และผลกระทบต่อมา ที่สัตว์ขั้วโลกจะต้องเผชิญ ถึงแม้จะเป็นขั้วโลก ที่หนาวแต่เราคงไม่คาดคิดว่า มันจะละลายได้ ซึ่งการละลายของน้ำแข็งนั้น เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะทำให้ น้ำทะเลสูงขึ้นแล้วนั้น จากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ยังทำให้มีพยาธิในปลา ของขั้วโลกเหนือเพิ่มมากขึ้น เพราะแต่ก่อนนั้นพยาธิในตัวปลานั้น ไม่เคยมีอยู่เลย หรืออาจจะมีอยู่ แต่เทียบจะหาไม่ได้เลย และนั้นเป็นการบอกว่าสภาวะโลกร้อน จะยิ่งทำให้พยาธิในตัวปลานั้น มากขึ้นกว่าเดิม อีกหลายเท่า คงจะไม่มีใครกินปลาแล้ว ในอนาคตอีกไม่ไกล และนอกจากจะทำให้ มีพยาธิในปลาเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังทำให้นกแพนกวิกนั้น มีอัตราการรอดชีวิตน้อยลงอีกด้วย เพราะการหาอาหารของพวกมันนั้น ทำได้ยากกว่าเดิม เพราะเวลาที่มันมีลูก และมันจะต้องออกไปหาอาหาร ซึ่งจะต้องใช้เวลานาน เพราะอาหารได้หายากมากขึ้นกว่าเดิม แต่มันจำเป็นต้องหามาให้ลูก และตัวมันกิน ส่งผลทำให้ลูกของมันต้องอยู่ลำพังเป็นเวลานาน ทำให้ลูกของมันตายได้

ปลูกต้นไม้ หนึ่งต้นก็ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้กับโลกได้แล้ว

ปลูกต้นไม้ หนึ่งต้นก็ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้กับโลกได้แล้ว

ปลูกต้นไม้
ปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว

กระแส ปลูกต้นไม้ กำลังเป็นเทรนด์ในขณะนี้ นอกจากจะได้ประโยชน์ในเรื่องของความสวยงาม มีไว้ถ่ายรูปสวยๆลง IG Facebook แล้ว การปลูกต้นไม้ไว้ในที่ทำงานนั้นยังช่วยทำให้ผ่อนคลาย ช่วยคลายเครียด และมีประโยชน์ต่อการทำงานของสมองอีกด้วย จึงเป็นที่นิยมมากในตอนนี้ คือการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับออฟฟิศของเรา โดยการปลูกต้นไม้แค่หนึ่งต้นวางไว้ที่โต๊ะทำงานก็สามารถทำให้เรามีความสุขกับการทำงานมากเพิ่มขึ้นแล้ว

และยังมีการวิจัยจากหลายที่ทั่วโลกเกี่ยวกับเรื่องของการ ปลูกต้นไม้ ไว้ในออฟฟิศนั้นช่วยทำให้พนักงานอารมณ์ดีมากขึ้น โดยพบว่าการปลุกต้นไม้ต้นเล็กๆหนึ่งต้นวางไว้ที่โต๊ะทำงานนั้นก็สามารถช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้แล้ว โดยวิจัยจากบริษัทแห่งหนึ่ง มีพนักงานทั้งหมด 120 คน โดยวัดระดับความเครียดจากการปลูกต้นไม้ไว้ที่โต๊ะส่วนหนึ่งและวัดระดับความเครียดสำหรับโต๊ะที่ไม่มีต้นไม้ปลูกอยู่ส่วนหนึ่ง ผลออกมาว่า พนักงานในส่วนที่ไม่มีต้นไม้ปลูกอยู่นั้นมีความเครียดมากกว่าคนที่ปลูกต้นไม้ จึงทำให้มีการรณรงค์ช่วยกันปลูกต้นไม้เพิ่ม เพื่อลดอากาเครียดของพนักงานภายในบริษัท

ประโยชน์ของต้นไม้นั้นจะช่วยฟื้นฟูความสนใจและอารมณ์ คือ การสร้างความสนใจจากงานที่เราทำ เพราะเราทำงานอยู่กับโต๊ะตลอดเวลา โฟกัสสิ่งเดิมเป็นเวลานานๆ จะทำให้สมองคนเราเกิดอาการเหนื่อยล้า เบื่อหน่าย เพราะสมองของเรานั้นมีการประมวลผลอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดความเครียดสะสม ซึ่งร่างกายต้องการ การฟื้นฟูเพื่อให้มีความสนใจมากขึ้น และการผ่อนคลายจากธรรมชาติจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้ผล เพราะธรรมชาตินั้นส่วนใหญ่จะดึงดูดความสนใจในลักษณะของความรื่นรมย์ ทำให้จิตใจของเราสามารถพักผ่อนได้ ทำให้ระดับความตั้งใจ และสมาธิ ได้รับการฟื้นฟูให้ดีขึ้น โดยงานวิจัยบอกว่าเพียงแค่ดูรูปต้นไม้แค่ 30 นาทีก็ช่วยทำให้สมองผ่อนคลายได้แล้ว

ต้นไม้สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเราได้ เพราะด้วยการปลูกต้นไม้นั้นทำให้เราอารมณ์ดีมากขึ้น ทำให้เราผ่อนคลายจากความเครียดมากขึ้น จึงส่งผลทำให้สมองของเรานั้นผ่อนคลายตามลงมา ผลของมันคือ ทำให้เราอยากจจะทำงานมากขึ้น ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย หรือสมองตัน และยังช่วยทำให้มีสมาธิในการโฟกัสเรื่องงานมากขึ้นอีกด้วย

ซึ่งการปลูกต้นไม้หรือการสร้างพื้นที่สีเขียวภายในออฟฟิศของเรานั้นก็ไม่อยากเลย คือ หาต้นไม้ที่เล็กกระทัดรัดสัก 2-3 ต้นมาวางไว้ที่โต๊ะทำงาน ตกแต่งด้วยตุ๊กตาแต่งสวนสักเล็กเพื่อเพิ่มความสนใจมากขึ้น เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยทำให้เราผ่อนคลายได้แล้ว

และในปัจจุบันนี้ในหลายๆบริษัทนั้นก็มีการสร้างพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้นแล้ว เพราะต้นไม้นั้นสามารถช่วยทำให้พนังงานในบริษัทนั้นผ่อนคลายและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยการสร้างพื้นที่ส่วนรวมนั้นให้มีต้นไม้มากขึ้น อย่างเช่นบริเวณที่นั่งพักของพนังงาน จะมีการตกแต่งอย่างเป็นธรรมชาติโดยเพิ่มต้นไม้ที่สามารถปลูกไว้ในอาคารได้ และต้นไม้บางชนิดนั้นยังช่วยฟอกอากาศได้ด้วย พื้นที่ในห้องน้ำ มีการตกแต่งด้วยต้นไม้เลื่อยที่ชอบความชื้น จะช่วยให้ลูกรู้สึกเย็นสบายผ่อนคลาย และทำให้สดชื้นขึ้นด้วย

แต่ในประเทศไทยของเรานั้น พื้นที่สีเขียวยังต่ำกว่าเกณฑ์ เพราะโดยปกติแล้วพื้นที่สีเขียวนั้นควรมีพื้นที่สีเขียวอยู่ที่ 9 ตารางเมตร/คน เพราะมีการวิจัยบอกแล้วว่าประเทศไทยนั้นมีพื้นที่สีเขียวแค่ 6.4 ตารางเมตร/คนเท่านั้น เห็นอย่างนี้แล้วจะต้องมีการเร่งให้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้นแล้ว เพื่อช่วยให้ทุกคนนั้นทำงานได้อย่างมีประสทธิภาพ และไม่เครียดเกินไปนั้นเอง

ตัวอย่างการเพิ่ม พื้นที่สีเขียว ในประเทศญี่ปุ่น

ตัวอย่างการเพิ่ม พื้นที่สีเขียว ในประเทศญี่ปุ่น

พื้นที่สีเขียว
ตัวอย่างการเพิ่ม พื้นที่สีเขียว

พื้นที่สีเขียว ในตอนนี้ทุกประเทศ กำลังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพราะ ตอนนี้โลกช่างร้อนกว่า แต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด ร้อนแค่ไหนนะหรือ เวลา 07:30 นี้แดดก็ออกเปรี้ยงๆ สามารถทำให้คนละลายได้แล้ว อากาศร้อนแบบนี้ ก็จะชวนให้ใครหลายๆคนนั้น มีอารมณ์กันแต่เช้า เพราะเพิ่งจะอาบน้ำ แต่งหน้าแต่งตัวเสร็จ ก็เหงื่ออีกแล้ว มันเป็นเรื่อง ที่น่าหงุดหงิดมากเลยทีเดียว หลังจากออกจากบ้าน เพื่อไปที่ทำงาน หรือไปโรงเรียน นั้นยิ่งร้อนกว่าเดิม ทำให้ชีวิตในหนึ่งวันนั้น กลายเป็นเรื่องหน้าเบื่อ สำหรับใครหลายๆคน ขนาดในประเทศ ที่มีอากาศหนาวยังร้อนขึ้นมาก จะนับประสาอะไร กับประเทศที่ร้อนอยู่แล้ว ยิ่งดูข่าวว่า แถบขั้วโลกนั้น ได้มีน้ำแข็งละลายเพิ่มขึ้นอีก ก็ดูออกแล้วว่า โลกเรานั้นเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เพราะฉะนั้น ก่อนที่มันจะสายเกินไปมากกว่านี้ เราก็ควรจะช่วยกัน สร้างสิ่งที่มันเคยมีอยู่ บนโลกของเราอย่างมากมาย ให้กลับมาเหมือนเดิม อย่างเช่นต้นไม้ ที่มีจำนวนลดลง อย่างน่าตกใจ เราควรมาช่วยกัน กอบกู้ต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้มีเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมดีกว่า

โดยในบทความนี้ จะขอยกตัวอย่าง มาจากบริษัทหนึ่ง ที่ได้มีการปรับปรุง และวางแผนที่จะเพิ่ม พื้นที่สีเขียวให้มีมากขึ้น ซึ่งบริษัทนี้ เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ ในประเทศญี่ปุ่น เขาได้ออกมาเป็นบริษัทตัวอย่าง ที่ทำให้หลายๆบริษัทนั้น เริ่มมีความกระตือรือร้นมากขึ้น คือ สร้างทุกส่วน ของบริษัทให้มีระบบนิเวศน์ ที่ดีมากขึ้น โดยการปลูกต้นไม้ ทุกซอกทุกมุมเท่าที่จะปลูกได้ อย่างเช่น บริเวณทางเข้าบริษัทนั้น โดยปกติทั่วไป คงจะเห็นว่าเป็นลานกว้าง ที่อาจจะตกแต่งแค่น้ำพุเพิ่มเข้ามา และเน้นเป็นลานจอดรถกว้างๆ อย่างห้างสรรพสินค้า แต่บริษัทนี้ ได้เปลี่ยนจากลานกว้าง ให้เป็นสวนสาธารณะ ขนาดย่อมๆไว้ สำหรับพนักงานของบริษัทเท่านั้น คือ มีการปูพื้นหญ้าแท้ๆ ในบริเวณกว้าง และมีการขุดหลุมใหญ่ เพื่อนำต้นไม้ใหญ่ หลายๆต้นมาปลูก และทำที่นั่งเล่นล้อมรอบต้นไม้ ให้เสริมเติมแต่งด้วยต้นไม้ขนาดรถ อย่างเช่น ต้นเฟิร์น มีการทำร่ม ด้านบนโดยการสร้างโครงเล็ก ตามลำต้นไม้ และปลูกต้นไม้เลื้อย เพื่อบดบังแสงแดด มีการตกแต่งกิ่งให้สวยงาม และมีการทำแบบนี้หลายๆต้น เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้น่าอยู่มากขึ้น

จากนั้นก่อนที่จะเดินผ่าน เข้าประตูบานใหญ่ของออฟฟิศ ซึ่งจะเป็นประตูกระจกใส่บานเลื่อน มีการตกแต่งอุโมงค์ต้นไม้ ขนาดไม่ใหญ่มาก ตกแต่งด้วยต้นไม้เลื้อย หลายๆพันธุ์ มีการวางหินแผ่น ที่ทางเดิน เพื่อทำให้ไม่รกจนเกินไป และมีกฎที่เข้มงวดเพิ่มขึ้น คือ ในโต๊ะทำงานของพนักงานทุกคนนั้น จะต้องมีต้นไม้ ประกอบอย่างน้อยสองต้น ซึ่งต้นไม้เหล่านี้ จะช่วยให้พนักงานในบริษัทนั้น มีความผ่อนคลายสดชื่น ในการทำงานอีกด้วย บริเวณภายในตัวออฟฟิศนั้น ก็ยังมีต้นไม้ เป็นองค์ประกอบหลักเช่นกัน บริเวณในลิฟต์นั้น ได้มีการนำต้นไม้ขนาดเล็ก แต่เป็นต้นไม้เลื้อย ที่สามารถอยู่ในร่มได้ และไม่ชอบน้ำมากนัก ทำให้ลิฟต์นั้น ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในส่วนของบันไดเลื่อน ก็ตกแต่งด้วยต้นไม้ ที่หลายกหลายเช่นกัน จะเรียกว่า เป็นบันได้เลื่อนกลางป่าก็ได้ เพราะบริเวณข้างๆ บันไดเลื่อนนั้น มีต้นไม้ใหญ่อยู่หลายต้น เรียงรายต่อๆกัน อย่างเป็นระเบียบ มีดินจริงๆเพื่อช่วยให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยบริษัทนี้นั้น จะมีการปูพื้น เพียงบริเวณทางเดินเท่านั้น แต่ในบริเวณอื่นๆ จะเป็นดินทั้งหมด ซึ่งเสริมสร้างความเป็นธรรมชาติ ได้มากขึ้นทีเดียว และบริเวณภายในห้องประชุมนั้น มีการปรับปรุงแก้ไขไอเดียเพิ่มขึ้น โดยการประชุมกลางป่า เหมือนเรานั่งอยู่ร้านคาเฟ่กลางป่า ที่มีโต๊ะยาวขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางห้อง มีโปรเจ็กเตอร์ที่ทันสมัย เพียงแค่มีการตกแต่งต้นไม้เท่านี้ ก็สามารถช่วยทำให้มีพื้นที่สีเขียว เพิ่มมากขึ้นแล้ว

อ่านจบทำให้นึกถึงหลายๆออฟฟิศสำนักงาน ที่มองไปทางไหนก็มีแต่ปูน กระเบื้อง มองไม่เห็นธรรมชาติ ขาดความมีชีวิตชีวาไปเลย ออฟฟิศสำนักงานไหน จะลองนำไปปรับใช้ดู กับตัวอย่างของการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ที่ได้นำเสนอในบทความนี้ ก็ยินดีมากมาย

สารพัดปัญหาเพราะ พื้นที่สีเขียว ลดลง

สารพัดปัญหาเพราะ พื้นที่สีเขียว ลดลง

พื้นที่สีเขียว
พื้นที่สีเขียว ลดลง

ในเวลานี้ทุกคนคงรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าโลกนั้นได้ส่งสัญญาเตือนเรามานานแล้วไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาวที่มีระยะเวลาลดลงแล้ว และยังทำให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายมากกว่าปกติและโลกกำลังเดินทางไปสู่วิกฤต ด้วยการกระทำ หรือพฤติกรรมของมนุษย์เอง โดยเฉพาะกับสภาวะโลกร้อน ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นวงกว้างมากๆ ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่เรากำลังวิตกกันอยู่ และมีผลกระทบที่เห็นชัดที่สุดก็คือปัญหาน้ำแข็งขั้วโลกละลาย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่จะทำให้เกิดผลกระทบจำนวนมากกับโลกของเรา ปัญหาที่บอกนี้ไม่ใช่แค่วิกฤตปัญหาน้ำท่วมโลกเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกิดวิกฤตอื่นๆ อย่างเช่น การลดลงของ พื้นที่สีเขียว นั้นส่งผลทำให้ชั้นบรรยากาศของเรานั้นเสื่อมสภาพมากกว่าเดิม และการเกิดพายุที่หนักและรุนแรงมากขึ้นทุกปีเพราะการเปลี่ยนแปลงหลายๆปัจจัยและยังรวมไปถึงน้ำท่วม ซึ่งจะเห็นข่าวที่เพิ่มขึ้นทุกปีว่ามีน้ำท่วมมากกว่าปกติอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยปกติแล้วการเกิดน้ำท่วมนั้นจะเป็นเพราะมีฝนฟ้าพายุที่ตกเป็นเวลานานแล้ววันจึงทำให้มีน้ำท่วมในบางพื้นที่ แต่ปัจจุบันนั้นไม่ใช่อย่างที่เราเคยเห็นอีกต่อไป เพราะน้ำท่วมนั้นเริ่มท่วมทุกปี ซึ่งปกติแล้วจะท่วม 4-5 ปีครั้ง เกิดจากการตัดต้นไม้ทำลายป่า และยังส่งผลอย่างที่เราไม่ชอบมากที่สุดก็คือโลกร้อนขึ้นนั้นเอง

ซึ่งการที่โลกของเรานั้นร้อนขึ้นเพราะพื้นที่สีเขียวนั้นลงลดยังมีปัญหาตามมาอีกซึ่งอยู่ใกล้ตัวเรามากเลยนั้นก็คือ การเกิดโรคยอดฮิตในช่วงฤดูร้อนที่มีอากาศร้อนสูงมากกว่าปกติ คือโรคอหิวาตก เป็นโรคติดต่อที่มาจากเชื้อแบคทีเรียเพราะแบคทีเรียนั้นจะตายยากมาก ยังมีการวิจัยว่าแบคทีเรียนั้นโดยปกติจะตายได้ง่ายด้วยอุณหภูมิที่ +90 องศาเซลเซียส และ +85 องศาเซลเซียสนั้นเชื้อแบคทีเรียสามารถเริ่มกระจายได้แต่ไม่มาก และอุณหภูมิที่ +37 องศาเซลเซียสนั้นแบคทีเรียจะกระจายได้มากที่สุด ซึ่งประเทศไทยของเรานั้นอุณหภูมิโดยปกติของหน้าร้อนนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 36-39 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เชื้อแบคทีเรียสามารถแพร่กระจายได้มากที่สุด และยังแพร่กระจายเพิ่มมากขึ้นจำนวน 2 เท่าทุก 20 นาทีเลยทีเดียว เชื้อแบคทีเรียนั้นจะเข้าสู่ร่างกายของเราโดยการรับประทานอาหาร เชื้อจะเข้าไปอยู่บริเวณลำไส้ และจะสร้างพิษออกมา ทำปฏิกิริยากับเยื้อบุผนังของลำไส้เล็กทำให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง มีอุจจาระเป็นน้ำ สีซาวข้าว ซึ่งทำให้ร่างกายเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว ซึ่งรุนแรงมากถ้าร่างกายเราไม่ได้รับการรักษาอย่างทันเวลาอาจจะทำให้เสียชีวิตได้

โรคไข้เลือดออก ใช่ว่าการเป็นโรคไข้เลือดออกนั้นจะสามารถเป้นได้เฉพาะช่วงหน้าฝนอย่างเดียวเท่านั้นนะ ช่วงหน้าร้อนก็สามาถเป็นได้เช่นกันเพราะด้วยอากาศร้อนทำให้คนเรานั้นมีเหงื่อออกมาได้ง่ายและมีเหงื่อปริมาณมากกว่าปกติซึ่งเป็นเรื่องที่ยุงนั้นชอบมาก เพราะตามหลักของยุงแล้วเหงื่อของมนุษย์นั้นมีกลิ่นหอมมาก โดยยุงตัวนั้นจะมีการบินไปดูดเลือดคนที่เป้นไข้เลือดออกมาก่อนแล้ว หลังจากนั้นยุงจะชอบออกมาหากินในตอนกลางวัน ชอบวางไข้ไว้ในภาชนะต่างๆเช่น ยางรถยนต์ กะลา กระป๋อง จานรองขาตู้กับข้าว ซึ่งของพวกนี้มีอยู่ในบ้านของเรานั้น การเป็นไข้เลือดออกยังสามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากเรารักษาไม่ทัน

โรคอาหารเป็นพิษ เป็นโรคที่คิดนิยมเป็นกันเพราะเราไม่รู้ว่าในอาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั้นมีเชื้อแบคทีเรียอยู่หรือไม่ สาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษนั้นเกิดจากการได้รับเชื้อเข้าไปทางอาหาร และได้รับเชื้อเข้าไปทางปัสสาวะยิ่งถ้าอากาศยิ่งยิ่งเสี่ยงต่อการที่แบคทีเรียจะเข้าไปสู่ร่างกายของเราได้นั้นเอง

การอนุรักษ์และเพิ่ม พื้นที่สีเขียว ในหลายๆประเทศทั่วโลก

การอนุรักษ์และเพิ่ม พื้นที่สีเขียว ในหลายๆประเทศทั่วโลก

พื้นที่สีเขียว
เพิ่มพื้นที่สีเขียว

เราทุกคนรู้ดีว่าจะต้องช่วยกันอนุรักษ์รักษาสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ หรือ พื้นที่สีเขียว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหนรับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในอนาคต เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะเห็นสิ่งสำคัญของสิ่งแวดล้อมเพื่อให้คงอยู่ได้อย่างยืนยาว

              พื้นที่สีเขียว ในปัจจุบันนี้ทั่วโลกเริ่มมีการปรับการใช้ชีวิตแบบใหม่โดยการทำความเข้าใจว่าสิ่งแวดล้อมนั้นสำคัญกับการใช้ชีวิตของเราอย่างไร ซึ่งประเทศสิงคโปร์เริ่มเป็นผู้นำด้านเมืองสีเขียวอันดับหนึ่งของเอเชีย เริ่มจัดให้มีการอนุรักษ์และจำกัดการใช้งานของโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งแผนการของประเทศสิงคโปร์ง่ายๆเลยคือการทำให้ อากาศนั้นบริสุทธิ์ ทำให้น้ำสะอาด และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในประเทศแคนนาดา ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำของการใช้พลังงานหมุนเวียนจากน้ำที่ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นและยังมีการใช้งานในเมือง ด้วย และทีมปฏิบัติการต่างๆยังได้รับรางวัลและได้รับการแต่งตั้งว่าเป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดในโลก มาต่อกันที่ประเทศไทย ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลายคนอาจจะประหลาดใจ กรุงเทพมหานครนั้นได้รับการรับรองเนื่องจากมีเมืองสีเขียวที่เรียกว่า ปอดกลางเมือง ที่บางกระเจ้า เป็นพื้นที่ที่มีความเป็นธรรมชาติจากต้นไม้ มีทางยกระดับเพื่อให้เป็นพื้นที่ปั่นจักรยานให้ผู้คนได้สัมผัสกับธรรมชาติตลอดทั้งปี ในบราซิลเป็นอีกประเทศที่มีความยั่งยืนในเรื่องของการวางผังเมือง เมืองนี้มีระบบขนส่งที่มีคุณภาพ มีเส้นทางให้ปั่นจักรยานที่เด่นชัด และยังมีพื้นที่สีเขียวทั้งหมดสิบสองเอเคอร์สำหรับทุกๆหนึ่งพันคน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก

ในกรุงลอนดอกเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความเจริญในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่มีเอกลักษณ์และมีประวัติศาสตร์ความเป็นมามากมาย และยังมีการอนุรักษ์ป่าไม้โดยเพิ่มพื้นที่สีเขียวเข้ามา และยังมีสวนสาธารณะเพิ่มขึ้นอีกทุกปี ยังมีการส่งเสริมการใช่แหล่งพลังงานทดแทนเสมอ โดยกรุงลอนดอนนั้นตั้งเป้าที่จะเป็นเมืองปลอดคาร์บอนภายในหนึ่งทศวรรษอีกด้วย

ในเมืองอัสเตอร์ดัมได้รับการยกย่องในเรื่องของความมุ่งมั่นในการใช้ชีวิตแบบสีเขียว และในเรื่องของความสะอาด ภายในตัวเมืองอัสเตอร์ดัมนั้นจะมีถังขยะอยู่ทุกมุมของตึกและเสาไฟฟ้า และยังเป็นที่เลืองลือในเรื่องของจักรยาน เพราะเมืองนี้นั้นมีจักรยานมากกว่าจำนวนคนในเมืองเลยทีเดียว เมืองโคเปนเฮเกน ก็ให้การสนับสนุนกับการใช้จักรยานเช่นกัน และยังมีอาคารที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เมือง สตอกโฮล์ม มีความก้าวหน้ามากในเรื่องของโรงงานก๊าซชีวภาพ โดยเมืองสตอกโฮล์มจะมุ่งเน้นเป็นเมืองปลอดเชื้อเพลิงภายในเร็วๆนี้

เรคยาวิก ในไอซ์แลนด์ เป็นเมืองที่มีอากาศหนาวเย็นมาก จึงมุ่งเน้นในเรื่องของการผลิตไฟฟ้าที่ให้ความร้อน และน้ำร้อน ซึ่งใช้ผลิตจากแหล่งพลักงานความร้อนใต้พิภพ

เมืองเคปทาวน์ เป็นอีกประเทศที่มีพื้นที่สีเขียวเยอะ เป็นประเทศที่อนุรักษ์ธรรมชาติและมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสม เป็นเมืองที่สะอาดนักท่องเที่ยวเยอะ และมีการณรงค์เพื่อใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ประเทศญี่ปุ่นก็เริ่มมีการนำหลักการของประเทศอื่นๆมาเป็นแนวทางในการอนุรักษ์ป่าไม้ให้เกิดพื้นที่สีเขียว โดยการนำหลักการของสิงค์โปร์มาใช้เป็นแนวทางคือ การจำกัดผลพิษทางอุตสาหกรรมต่างๆภายในประเทศ เพื่อให้ได้อากาศที่บริสุทธิ์และทำให้มีน้ำสะอาดเพิ่มขึ้น ใช้พื้นที่ต่างๆให้เกิดประโยชน์โดยการเชิญชวนประชาชนช่วยกันปลูกต้นไม้เพิ่ม

ซึ่งพื้นที่สีเขียวนั้นสำคัญมากในปัจจุบันของเรา เพราะโลกของเราได้สูญเสียต้นไม้ต่างๆไปอย่างมากมายและในปัจจุบันได้มีการกลับมาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อทำให้บรรยากาศของโลกเรานั้นกลับมาดีขึ้น พื้นที่สีเขียวจึงสำคัญมาก สามารถใช้ประโชน์จากพื้นที่สีเขียวได้หลายอย่าง เป็นที่ออกกำลัง เป็นที่นอนพักผ่อน เพื่อความสบายใจ และยังช่วยทำให้โลกของเราหน้าอยู่เพิ่มขึ้นด้วย

ประโยชน์ของการสร้าง พื้นที่สีเขียว จากต้นไม้

ประโยชน์ของการสร้าง พื้นที่สีเขียว จากต้นไม้

พื้นที่สีเขียว
ประโยชน์ พื้นที่สีเขียว

การเพิ่ม พื้นที่สีเขียว ให้กับเมืองหลวงของประเทศไทยอย่างกรุงเทพฯไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกรุงเทพฯนั้นได้ประสบกับปัญหาทางด้านมลพิษทางอากาศและมลพิษทางด้านอื่นอีก แต่ก่อนนั้นกรุงเทพฯได้ขึ้นแท่นอันดับ 10 ของโลกที่มีพื้นที่สีเขียวมากที่สุดแต่ในปัจจุบันนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว ได้มีการสร้างตึกอาคารบ้านเรือน ไปจนถึงการสร้างโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆเพิ่มมากขึ้น ทำให้กรุงเทพฯไม่สามารถควบคุมมลพิษต่างๆได้และไม่สามารถอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวไว้ได้อย่างในอดีต ทำให้มีผลกระทบต่างๆตามมา อย่างเช่น ฝุ่น PM2.5 ที่ประสบปัญหากันทั่วโลก แต่แทนที่กรุงเทพฯของเรานั้นจะช่วยลดปัญหาฝุ่นนี้ได้ กลับไม่ใช่ ยังทำให้ฝุ่น PM 2.5 เพิ่มมากขึ้นติดอันดับ 10 ของโลกแทน ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการต่างๆอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงประชากรทุกคนไม่ได้ให้ความร่วมมือมากเท่าที่ควรจะเป็น และในปัจจุบันนี้ได้เริ่มมีการรณรงค์ทำสิ่งต่างๆเพื่อให้ลดผลกระทบต่างๆที่กำลังจะเกิดขึ้น คือการช่วยกันปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นในบริเวณที่ไม่ได้ใช้สอย การปลูกต้นไม้หรือนำต้นไม้ที่มีการปลูกใส่กระถางนั้นมาวางไว้ในพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวางไว้หน้าสถานที่ทำงานต่างๆ หรือจะวางไว้ในที่จอดรถที่มีบริเวณที่วางแค่นี้ก็สามารถช่วยทำให้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นได้แล้ว ลองคิดดูหากเราทุกคนช่วยกันปลุกต้นไม้ เห็นต้นไม้เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรทำลาย กรุงเทพฯของเราก็จะหน้าอยู่มากขึ้น นอกจากการปลูกต้นไม้แล้วยังมีการกำหนดแผนที่หรือแผนผังต่างๆ วางแผนบูรณาการใหม่ วิเคราะห์ศักยภาพปัญหาและข้อจำกัดทางด้านสิ่งแวดล้อม กำหนดแผนการที่ตอบโจทย์ปัญหาสิ่งแวดล้อมแต่ละตำแหน่ง กำหนดสัดส่วนต่างๆเพื่อให้ใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพต่างๆของพื้นที่นั้น

นอกจากนี้ยังมีการกำหนดพันธุ์ให้เหมาะสมกับพื้นที่โดยจะพิจารณาแนวทางจากปัญหามลพิษในแต่ละพื้นที่ ที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีความแตกต่างกันน้อยจนไปถึงมาก เช่น หากต้องการต้นไม้ที่ช่วยดักจับฝุ่นละอองต่างๆภายในอากาศควรเน้นต้นไม้ที่มีลักษณะที่มีใบหนา ผิวใบหยาบสาก หรือใบมีขนจะช่วยดักจับฝุ่นละอองได้ดีกว่า ไม่ทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย และถ้าหากใช้ต้นไม้ที่มีใบขนาดใหญ่จะสามารถช่วยดักจับฝุ่นได้มากขึ้น

ในการเลือกต้นไม้นั้นขึ้นอยู่กับศักยภาพของพันธุ์ไม้ด้วยว่าเหมาะสมกับพื้นที่ในแต่ละแห่งไหม เพราะการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองนั้น ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างพื้นที่สีเขียวที่ยั่งยืนและมีประสิทธิเพิ่มขึ้นได้ โดยจะต้องพิจารณาจากองค์ประกอบหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกันมากที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนั้นพันธุ์ไม้สำหรับปลูกเพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวหรือการปรับสมดุลทางอากาศใหม่ จะต้องมีการแบ่งประเภทตามคุณสมบัติและคุณประโยชน์ต่างๆอีกด้วย

ต้นไม้ที่กำหนดในพื้นที่ต่างๆที่จะกำหนดเอาไว้ปลูกในพื้นที่ ที่จัดไว้แล้วนั้นจะเริ่มจากไม้ยืนต้นที่มีเนื้อไม้มาก ไม้เนื้อแข็งปลูกไว้เพื่อให้ร่มเงาเพราะมีลำต้นเดี่ยว ตั้งตรง ควรมีความสูงไม่เกินตามที่กำหนดคือ 15 เมตร เช่น ต้นมะม่วง ต้นจามจุรี ต้นหูกวาง ต้นหูกระจง ต้นไทร ต้นประดู่ และยังมีอีกมากมายในกระบวนการสังเคราะห์ของต้นไม้ยืนต้นนั้นมีความสำคัญ เพราะสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนที่ดูดซับไว้ในรูปของเนื้อไม้ ซึ่งการวิจัยนั้นได้ออกมาเปิดเผยว่า การที่ต้นไม้สามารถสร้างเนื้อไม้ได้หนัก 1 ตัน จะหมายความว่า ต้นไม้ดังกล่าวจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงประมาณ 1.83 ตันต่อปี และยังเพิ่มก๊าซออกซิเจนมาสู่ธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1.33 ตันต่อปี และต้นไม้ยังมีคุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ สามารถช่วยกรองแสงแดดและลดความร้อนจากดวงอาทิตย์ และคายความเย็นจากใบสู่สิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

Green Area หรือพื้นที่สีเขียว มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

Green Area หรือพื้นที่สีเขียว มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

ประโยชน์ของ Green Area
ประโยชน์ของ Green Area

Green Area หรือพื้นที่สีเขียว เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเมือง เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและชีวิตที่ดีของคนเมือง การขยายตัวอย่างรวดเร็วของเมืองในอดีตจนถึงปัจจุบัน ก่อให้เกิดปัญหาด้านการขาดแคลนพื้นที่สีเขียวจึงได้มีการพัฒนาเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆที่เป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ในการพัฒนาพื้นที่สีเขียวให้มีประสิทธิภาพ ในเขตชุมชนหรือเขตที่มีประชากรอาศัยหนาแน่น ในการพัฒนาพื้นที่สีเขียวนั้นมีหลายปัจจัยเพื่อช่วยให้การพัฒนานั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว คุ้มค่า และเห็นผลอย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องอาศัย เครื่องมือทางด้านกฎหมาย เครื่องมือทางด้านการตลาด เครื่องมือทางด้านกระบวนการต่างๆ ในการใช้เครื่องมือต่างๆนั้นก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป อย่างการใช้เครื่องมือทางด้านกฎหมาย คือการตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเช่นห้ามตัดต้นไม้ทำลายป่าในบริเวณที่มีการควบคุมเป็นพิเศษ หรือ การควบคุมควันที่เกิดจาก เครื่องระบายไอน้ำจากโรงงาน ควันจากรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซด์ รวมไปถึงการเผาป่า หรือเผานาดินของเกษตรกร จะต้องมีการออกกฎหมายอย่างเคร่งครัดและชัดเจน รวมไปถึงประชาชรจะต้องช่วยกันรักษา ปฏิบัติตนตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

เครื่องมือทางด้านการตลาดก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้สื่อถึงสภาพแวดล้อมในปัจจุบันโดยการถ่ายทอดสิ่งต่างๆผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้เกิดมุมมองและความคิด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตโดยไม่ทำร้ายสิ่งแวะล้อมไปมากกว่านี้ จะสะท้อนให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมในรอบตัวเราตอนนี้ส่งผลอย่างไรบ้าง การใช้เครื่องมือทางด้านการตลาดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คนเปลี่ยนความคิด ไม่มากก็น้อย
เครื่องมือทางด้านกระบวนการ การใช้เครื่องมือทางด้านกระบวนการนั้นเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารจัดการต่างๆ เพื่อกำหนดวัตถุประสงค์ และขอบเขต ให้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเช่นการกำหนดกระบวนการในการปลูกต้นไม้ในแต่ละพื้นที่ จะต้องกำหนดการวางแผนการปลูกต้นไม้ในบริเวณพื้นที่ใด ในแต่ละพื้นที่ควรจะปลุกต้นไม้แบบไหน เพื่อลดปัญหาพื้นที่สีเขียวที่กำลังขาดแคลน จะต้องมีกระบวนการที่เคร่งคัดและจะต้องขอความร่วมมือกับทุกฝ่าย
พื้นที่สีเขียวจึงถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเมืองที่มีอิทธิพลต่อความเป็นอยู่และเป็นองค์ประกอบสำคัญของคุณภาพชีวิตของคนเมือง เพราะพื้นที่สีเขียวนั้นจะช่วยสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดีขึ้นและพัฒนาสิ่งแวดล้อมเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นพื้นที่สีเขียวเป็นพื้นที่หลักสำหรับคนเมืองที่ใช้ในการพักผ่อนหย่อนใจ เพราะในการวิจัยจากหลายๆที่นั้นบอกว่าคนที่อยู่ในเมืองนั้นจะมีสภาพจิตใจที่มีความเครียดสูง มีความกดดัน และการใช้ชีวิตไม่มีความสุข เพราะการที่อยู่ในเมืองกรุงนั้นพื้นที่โดยรวมแล้ว จะแออัด จะต้องเจอกับคนมากหน้าหลายตา การทำงานอย่างเร่งรีบนั้นทำให้มีอาการเครียดสะสม อาจจะทำให้มีโรคต่างๆตามมาอย่างเช่น โรคเครียด หรือ โรคซึมเศร้า ซึ่งจะพบเห็นได้บ่อยสำหรับคนที่เป็นโรคนี้ การมีพื้นที่สีเขียวจะเป็นเรื่องสำคัญที่ควรมีพื้นที่จัดกิจกรรมที่มีต้นไม้เป็นส่วนประกอบหลัก เพราะกิจกรรมแต่ละอย่างนั้นจะมีความผ่อนคลาย สนุกสนาน อยู่แล้ว แต่เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายเข้าไปอีกยิ่งจะช่วยทำให้กิจกรรมนั้นดีมากขึ้นไปอีก

ประเทศไทยในปัจจุบันนั้นจึงเริ่มมีการเห็นถึงความสำคัญของต้นไม้และพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้นจากอดีต เพราะช่วยลดปัญหาทางด้านต่างๆได้อย่างมากมาย ช่วยทำให้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองกรุงนั้นมีการใช้ชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น จึงเริ่มมีการปลูกต้นไม้ตามถนนหนทางต่างๆ พร้อมทั้งมีการตกแต่งด้วยดอกไม้เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวิภาพมากขึ้น การสร้างพื้นที่สีเขียวโดยการเพิ่มสวนสาธารณะจัดให้มีม้าหินอ่อนไว้เพื่อนั่งเล่น ผ่อนคลาย มีลานกิจกรรมไว้เต้นแอโรบิค หรือจะเป็นการจัดให้มีถนนสำหรับคนวิ่ง และปั่นจักรยาน โดยการแยกส่วนออกจากกันเพื่อลดอุบัติเหตุ